ppac, สแกนลายผิว, สแกนลายนิ้วมือ, ค้นหาตัวตน, cpall, วิเคราะห์ศักยภาพ

4 เคล็ดลับง่าย ๆ ในการสอน Self-esteem ลูกวัยรุ่น

ppac, สแกนลายผิว, สแกนลายนิ้วมือ, ค้นหาตัวตน, cpall, วิเคราะห์ศักยภาพ
 
Self – esteem หรือความภาคภูมิใจในตนเอง มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสุขและความสำเร็จของเด็กและวัยรุ่น หากจะแปลให้เข้าใจง่ายที่สุดก็คือการที่เรามีความรู้สึกดีกับตัวเอง เด็กที่มีความนับถือตนเองสูง จะรู้สึกชอบและยอมรับ ภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เด็กที่มีความนับถือตนเองต่ำ จะรู้สึกแย่กับตัวเอง คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่เด็ก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงมากมายพวกเขารู้สึกสับสนในตัวเอง มีความสงสัยไม่แน่ใจในความสามารถของตัวเอง อาจจะไม่ชอบรูปลักษณ์ตัวเองและยังไม่รู้วิธีการจัดการกับความคิด ทัศนคติ หรือพฤติกรรมของตัวเองได้อย่างดีพอ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องให้เด็กเรียนรู้เรื่องการเห็นคุณค่าในตัวเองหรือความภาคภูมิใจในตัวเองเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการรักตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง ให้อภัยตัวเองพร้อมเรียนรู้ความผิดพลาด และสามารถสร้างความสุขให้กับตัวเองได้
วันนี้ admin มี 4 เทคนิคมาฝากคุณพ่อคุณแม่ในการช่วยลูกวัยรุ่นสร้าง Self – esteem มาฝากกันค่ะ
 
 
1. #ส่งเสริมให้ลูกมีการพัฒนาตนเอง วัยรุ่นที่พยายามฝึกฝนทักษะบางอย่างอย่างจริงจัง แต่ไม่สามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ พวกเขาอาจคิดว่าตัวเองไม่เก่ง เช่น เด็กที่ไม่เก่งเลขอาจตัดสินตัวเองว่าตนเองไม่ฉลาด หรือเด็กที่พลาดในการคัดเลือกเข้าทีมกีฬาของโรงเรียนอาจตัดสินตัวเองว่าพวกเขาคงไม่เก่งด้านกีฬาเพียงพอ
พ่อแม่ต้องแสดงให้ลูกวัยรุ่นเห็นว่าเป็นไปได้ที่จะยอมรับข้อบกพร่องในขณะเดียวกันก็พยายามที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นด้วย มีความสมดุลที่ดีระหว่างการยอมรับตนเองและการพัฒนาตนเอง แทนที่จะบอกว่าตัวเอง “ไม่เก่ง” แต่ให้บอกตัวเองว่า “เราจะเก่งขึ้นได้”
 
 
2. #ยกย่องความพยายามแทนผลลัพธ์ แทนที่จะยกย่องลูกที่สอบได้เกรดดีให้ยกย่องความทุ่มเท ความพยายามสำหรับการเรียนทั้งหมดที่พวกเขาทำ แทนที่พ่อแม่จะพูดว่า “เยี่ยมมากเลยที่ลูกได้เกรด 4 ทุกวิชาเลย” แต่ควรพูดว่า “แม่ชื่นชมความพยายาม ความทุ่มเทที่ลูกตั้งใจอ่านหนังสือมาตลอด สิ่งที่ลูกทำมาเลยได้ผลลัพธ์ที่เยี่ยมมาก” พ่อแม่ต้องแสดงให้พวกเขาเห็นว่าสิ่งสำคัญคือต้องพยายามอย่างเต็มที่และก็ไม่เป็นไรหากพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จทุกครั้ง เพราะเราสามารถควบคุมความพยายามได้ แต่ไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้เสมอไป สิ่งสำคัญคือต้องรับรู้ถึงพลังและความพยายามของพวกเขาและเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การยกย่องไม่ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ตาม
 
 
3. #ให้โอกาสลูกในการแก้ไขปัญหา เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นและเราสามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ เราจะรู้สึกดีกับตัวเองและรู้สึกถึงความสำเร็จที่เราแก้ไขปัญหาได้ เด็กก็เช่นเดียวกัน หากลูกมีปัญหา พ่อแม่ควรให้พื้นที่ เวลากับพวกเขาเพื่อให้ลูกพยายามแก้ไขด้วยตนเอง เช่น หากลูกมีปัญหากับเพื่อนสนิท พ่อแม่อาจลองพูดคุยกับลูก ชวนลูกคิดว่าสิ่งนี้เกิดจากอะไร และลูกจะแก้ไขอย่างไร มีอะไรที่อยากให้พ่อแม่ช่วยหรือไม่
การทำเช่นนี้จะช่วยให้ลูกได้คิดและหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจและความนับถือตนเองให้กับลูกเช่นกัน
 
 
4. #สอนลูกให้ฝึกใช้คำพูดในเชิงบวกกับตัวเอง การพูดคุยกับตนเองมีความสำคัญมากในทุกสิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราคิดจะกำหนดว่าเรารู้สึกอย่างไร และการที่เรารู้สึกอย่างไรจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของเรา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสอนลูก ๆ ให้คิดบวก และวิธีที่พวกเขาจะพูดกับตัวเอง เช่น “ฉันสามารถแก้ปัญหานี้ได้ถ้าฉันพยายามต่อไป” “ไม่เป็นไรถ้าวันนี้ทีมของเราจะแพ้ เพราะเราทุกคนพยายามอย่างเต็มที่และเราไม่สามารถชนะได้ทุกครั้ง”
 
“ฉันรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่นแม้ว่าเขาจะไม่ได้สังเกตหรือขอบคุณฉันก็ตาม” คำพูดลักษณะนี้เป็นการบอกตัวเองในเชิงบวกและยังพัฒนาความนับถือตนเองอีกด้วย
การเลี้ยงดูลูกวัยรุ่นให้มีความภาคภูมิใจในตัวเองเป็นบททดสอบหนึ่งที่ท้าทายและต้องใช้ความอดทนขั้นสูงสุดเพราะไม่ได้เป็นการสร้างเพียงแค่วันเดียว แต่ต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่เป็นบุคคลสำคัญในการสร้างและส่งเสริมความภาคภูมิใจในตัวเองให้กับลูก นอกจากนี้ยังมีครู เพื่อน เครือญาติก็สามารถส่งผลต่อความรู้สึกของพวกเขาเกี่ยวกับตัวเองได้เช่นเดียวกัน
 
 
อย่าลืมว่าในฐานะพ่อแม่ เราสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองของลูกวัยรุ่นได้อย่างมาก วิธีที่พ่อแม่หล่อหลอมลูกในวันนี้จะมีผลต่อเส้นทางชีวิตของลูกในวันข้างหน้า ดังนั้นหากลูกมีความมั่นใจในตนเอง มีความภาคภูมิใจในตัวเองแล้ว พวกเขาจะกล้าเผชิญกับชีวิตที่มีความท้าทาย ความไม่แน่นอน และเขาจะสามารถจัดการกับความผิดหวังในชีวิตให้ดีขึ้นได้
 
 
✨ปัญหาของวัยรุ่นและความวิตกกังวลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเติบโตของวัยรุ่น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนและช่วยลูกเพิ่มความภาคภูมิใจในตัวเองกันนะคะ และหากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่กำลังอยากช่วยลูกในการสร้างความภาคภูมิใจ การนับถือในตัวเองให้กับลูก ก็สามารถเข้ามาพูดคุยกับเราได้นะคะ เพราะความท้าทายของการสร้าง Self esteem ให้กับลูกวัยรุ่นคือ หากลูกยังไม่รู้ว่าตัวเรามีจุดแข็ง จุดอ่อน มีบุคลิกภาพ หรือมีความเป็นตัวตนที่แท้จริงอย่างไร ก็ทำให้ลูกยังไม่เห็น “จุดแข็ง” หรือสิ่งที่เป็น “คุณค่า” ของตัวเอง การวิเคราะห์บุคลิกภาพและศักยภาพผ่านลายผิววิทยาสามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ และลูกช่วยกันค้นพบ Self – esteem ของลูกได้ เพราะเราทุกคนเกิดมาเพื่อสร้างความเป็นตัวเราให้เกิดคุณค่ากับตัวเองและสังคมในรูปแบบเฉพาะและดีที่สุดเท่าที่เราจะมีความสามารถ ดังนั้นหากเรารู้ว่า ตัวเรามีอะไรที่ดี หรือ แตกต่าง กับคนอื่นอย่างไร ก็ถือว่าเราได้เริ่มต้นในการสร้างสรรค์ตนเองได้อย่างดีที่สุดและมีคุณค่ามากที่สุดให้กับตัวเองแล้ว และแน่นอนว่าสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งคุณพ่อคุณแม่อยากเห็นจากลูกเช่นเดียวกัน
 
 
 

อ่านบทความอื่นๆ Click link

Leave a comment