ppac, สแกนลายผิว, สแกนลายนิ้วมือ, ค้นหาตัวตน, cpall, วิเคราะห์ศักยภาพ

5 เคล็ดลับช่วยลูกจัดการกับความผิดหวัง

ppac, สแกนลายผิว, สแกนลายนิ้วมือ, ค้นหาตัวตน, cpall, วิเคราะห์ศักยภาพ
 
ความผิดหวังเป็นอารมณ์ที่ยากสำหรับเด็ก ๆ ที่จะจัดการกับความรู้สึกนั้น และจริง ๆ แล้ว สำหรับผู้ใหญ่ก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน
ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่อยากเห็นลูก ๆ ของเราผิดหวัง อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ล้วนส่งผลกระทบกับทุกคนในเรื่องของข้อจำกัดต่าง ๆ ของการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างต่อเนื่องและไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ เด็ก ๆ อาจรู้สึกผิดหวังที่โรงเรียนยังคงปิดอยู่ ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อน ไม่มีงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิด ไม่ได้ไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย สนามเด็กเล่นปิด กิจกรรมโปรดของเด็ก ๆ ถูกระงับและมันยากสำหรับพวกเขาในการจัดการความผิดหวังเหล่านั้น
 
แต่ความผิดหวังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตซึ่งเราไม่สามารถปกป้องลูก ๆ ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ และสำหรับในฐานะพ่อแม่ เราจะช่วยลูก ๆ จัดการกับอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่นี้ในทางบวกได้อย่างไร และจะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ทักษะบางอย่างระหว่างทางได้หรือไม่?
 
 
วันนี้ Admin มี 5 เคล็ดลับมาฝากคุณพ่อคุณแม่เพื่อช่วยให้ลูกจัดการกับความผิดหวังได้ค่ะ
 
 
1. #ปล่อยให้พวกเขารู้สึกผิดหวัง พ่อแม่ทุกคนต้องการช่วยลูก ๆ จากความเจ็บปวดและความเสียใจ เพราะเราไม่อยากเห็นพวกเขาทุกข์ใจ ด้วยเหตุนี้พ่อแม่หลายคนจึงพยายามแก้ไข หรือลดความผิดหวังของลูกและนั่นอาจทำให้ความรู้สึกของลูกแย่ลงโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น
 
📎เราทำให้พวกเขาเสียสมาธิ -“ไม่ต้องร้องไห้นะ คุณแม่มีช็อคโกแลตมาให้ด้วย”
📎เราปิดพวกเขา -“ไม่เป็นไรหรอกลูก ลูกเก่งมาก ๆ เลย”
📎เราย่อขนาดความผิดหวังให้เล็กที่สุด -“มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะลูก”
📎เราทำให้พวกเขาอับอาย -“ลูกร้องไห้ทำไม โตแล้วนะอย่าทำตัวแบบนี้!”
คำพูดเหล่านี้กำลังบอกลูกว่าความรู้สึกของพวกเขาไม่สำคัญ พ่อแม่ไม่สามารถช่วยจัดการกับอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้ และความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่เช่นความผิดหวังนั้นน่ากลัว ควรหลีกเลี่ยง และเก็บเอาไว้ไม่ควรแสดงออกมา
 
 
2. #ตรวจสอบความรู้สึกของลูก แทนที่จะกระตุ้นให้ลูกซ่อนความรู้สึกผิดหวังจากพ่อแม่ พ่อแม่ต้องกระตุ้นให้พวกเขาแสดงออกว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร โดยการตรวจสอบความรู้สึกของพวกเขาและรับฟังลูกอย่างเห็นอกเห็นใจ
เมื่อพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ รับฟังและเอาใจใส่ลูก เหมือนพ่อแม่กำลังบอกลูกว่า “แม่เห็นลูก แม่ได้ยิน และแม่เข้าใจว่าตอนนี้ลูกรู้สึกผิดหวัง แม่อยู่กับหนูตรงนี้ ลูกมีอะไรอยากเล่าให้แม่ฟังมั้ย”
แล้วการรับฟังลูกอย่างเห็นอกเห็นใจเป็นอย่างไรล่ะ?
 
📎แม่ขอโทษที่เราไม่สามารถไปที่สวนสาธารณะในวันนี้ได้ มันน่าเบื่อจังเลยเนอะ
📎แม่เข้าใจว่าลูกอยากไปงานวันเกิดเพื่อนจริง ๆ มันยากมากเมื่อเราไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
📎ลูกสนุกกับการเล่มเกมใช่ไหม แม่เข้าใจว่ามันยากที่จะหยุดเล่นในขณะที่ลูกสนุกสนานอยู่
📎พูดในแบบที่พวกเขาคิด พวกเขารู้สึก ว่าเราเข้าใจพวกเขาอย่างแท้จริง
 
 
3. #ให้สิ่งที่ลูกปรารถนาในจินตนาการ การให้เด็ก ๆ อยู่ในจินตนาการในสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถมีได้ในความเป็นจริงเป็นวิธีที่ดีในการแสดงความเห็นอกเห็นใจและช่วยให้ลูกรู้สึก ได้ยินและเข้าใจ เพราะในที่สุดความผิดหวังก็คือความปรารถนาที่ไม่สมหวัง ดังนั้นแทนที่จะบอกถึงเหตุผลและตรรกะกับลูก ๆ เช่น “เราไม่สามารถไปงานฉลองวันเกิดได้เพราะมีโควิด” (ซึ่งมักจะทำให้พวกเขาปฏิเสธที่จะต้องเปลี่ยนแผน) พ่อแม่สามารถพูดกับลูกได้ว่า “แม่หวังว่าแม่จะมีไม้กายสิทธิ์ที่สามารถทำให้โควิดหายไป! แม่จะโบกมันไปทั่วโลกและจากนั้นเราทุกคนก็สามารถมีปาร์ตี้ใหญ่ได้”
หรือพ่อแม่สามารถใช้กลยุทธ์นี้เพื่อทราบความปรารถนาของพวกเขาเอง “ลูกอยากให้คุณพ่อพาหนูไปเล่นที่ไหนคะ ถ้าหนูสามารถขอคุณพ่อไปไหนก็ได้ในตอนนี้”
การใช้กลยุทธ์นี้เพื่อช่วยให้เด็กจัดการกับความผิดหวัง ช่วยให้พวกเขารู้สึกเข้าใจ และเมื่อพวกเขารู้สึกว่าพ่อแม่เข้าใจว่าพวกเขาต้องการสิ่งที่พวกเขาพลาดไปมากแค่ไหน พวกเขาก็เริ่มประมวลความรู้สึกและก้าวต่อไปได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวและในขณะที่รับรู้ว่าลูกรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ พ่อแม่ก็ยังปรับมุมมองให้ลูกรู้สึกถึงความหวังและมีบางสิ่งที่รอคอยในอนาคต
 
 
4. #แสวงหาแนวทางแก้ไข เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยลูกคิด หรือฝึกลูกให้คิดหาแนวทางแก้ไขกับปัญหาหรือความผิดหวังที่เกิดขึ้น พ่อแม่ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่างานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 10 ปีของลูกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่ได้จัดที่ร้านอาหาร ไม่สามารถเชิญเพื่อน ๆ มาได้ แต่ในขณะที่การแพร่ระบาดยังคงดำเนินต่อไป ผู้คนเริ่มมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นในการชดเชยความสูญเสียเหล่านี้ ปาร์ตี้วันเกิดเสมือนจริงก็สามารถช่วยให้บรรยากาศการรวมตัวกันจากคนละที่เกิดขึ้นได้ หรือหากลูกพลาดการอยู่ในทีมฟุตบอลโรงเรียน พ่อแม่อาจแนะนำให้ลูกใช้เวลานี้เพื่อฝึกฝนทักษะที่สนามหลังบ้านเพื่อลูกจะได้พร้อมที่จะไปคัดเลือกในครั้งหน้าเมื่อสิ่งต่าง ๆ กลับมาดีขึ้น
 
 
5. #ให้ลูกมีความรู้สึกในการควบคุม ส่วนที่ยากและท้าทายที่สุดของการแพร่ระบาดครั้งนี้คือเราไม่สามารถควบคุมได้ว่าโรงเรียนจะเปิดตามที่กำหนดหรือไม่ การเดินทางท่องเที่ยวจะเป็นปกติเมื่อไหร่ แต่เราสามารถควบคุมได้ว่าวันของเราจะเป็นอย่างไรและอะไรที่จะทำให้ลูกอดทนได้ง่ายขึ้น
พ่อแม่สามารถใช้เวลาช่วงนี้พูดคุยกับลูกเพื่อวางแผนกิจกรรมในแต่ละวันของพวกเขาได้ ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกรู้สึกว่าควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ลูกต้องการใช้เวลาว่างอย่างไร? กิจกรรมอะไรที่ลูกอยากทำเป็นพิเศษ? เด็ก ๆ หลายคนอาจจะตื่นเต้นกับการให้ข้อมูลในการวางแผนมื้ออาหารหรืองานบ้าน การมีจุดมุ่งหมายและรู้ว่าพ่อแม่ให้ความสำคัญกับความคิดของพวกเขาอาจทำให้สถานการณ์ที่น่าผิดหวังอยู่นี้มีสีสันและมีความสนุกเกิดขึ้น และพ่อแม่ก็สามารถจัดตารางชีวิตของตัวเองได้ง่ายขึ้นด้วย
 
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนยังมีอุปสรรคในการพูดคุยหรือยังไม่แน่ใจว่าเมื่อลูกผิดหวังพ่อแม่ควรจะเข้าไปพูดคุยอย่างไร ลูกมีบุคลิกภาพแบบไหน มีทักษะการจัดการกับความผิดหวังเป็นอย่างไร สามารถพูดคุยกับเราได้นะคะ เพราะทุกครอบครัวมีเอกลักษณ์และการใช้ชีวิตที่ต่างกัน มีความท้าทายที่เจอแตกต่างกันและเพราะครอบครัวเราไม่เหมือนใคร อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป การวิเคราะห์บุคลิกภาพและศักยภาพผ่านลายผิววิทยาจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยให้พ่อแม่เริ่มต้นเข้าใจลูกได้เร็วขึ้น ส่งผลต่อการเลี้ยงดูลูก การพูดคุยกับลูกเรื่องบุคลิกภาพของตัวลูกเอง และวิธีส่งเสริมลูกในการรับมือหรือจัดการกับความผิดหวังในรูปแบบเฉพาะตัว
 
 
👍อย่าลืมนะคะว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากแต่พวกเขามีประสบการณ์มากมายในการประมวลผลการจัดการความท้าทายดังกล่าว ในทางกลับกันเด็ก ๆ อาจประสบกับความผิดหวังเหล่านี้เป็นครั้งแรก เพราะ “ความผิดหวังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา” การเตรียมลูก ๆ ให้เติบโตในโลกที่ไม่แน่นอนจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้พ่อแม่ยังสามารถสร้างแบบจำลองพฤติกรรมการเผชิญปัญหาโดยบอกลูกว่าทักษะการเผชิญปัญหาของพ่อแม่คืออะไรและกระตุ้นช่วยให้พวกเขาคิดขึ้นเอง พ่อแม่อาจระดมความคิดบางอย่างเพื่อช่วยลูกแก้ปัญหาที่พวกเขาเผชิญได้ มีวิธีอื่นในการจัดการกับสถานการณ์หรือไม่? ทางเลือกอื่นในการได้รับสิ่งที่ต้องการ? วิธีคิดที่แตกต่างเกี่ยวกับสถานการณ์? การประนีประนอมกับใครบางคน?
 
 
👉แน่นอนว่าบางครั้งก็อาจไม่มีทางแก้ไขแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะบางครั้งสิ่งที่จำเป็นเพื่อช่วยให้ลูกจัดการกับความผิดหวังได้ในขั้นตอนแรกก็คือ “หูของพ่อแม่ที่รับฟังและให้เวลาสักระยะ” การใช้ทักษะการฟังอย่างตั้งใจและเห็นอกเห็นใจจึงเป็นทักษะสำคัญมากเพื่อให้พ่อแม่ช่วยลูกผ่านพ้นความผิดหวังที่เกิดขึ้นและให้ลูกเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีจัดการกับความผิดหวังที่คล้ายกันในอนาคต คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนมีวิธีแก้ปัญหาความผิดหวังของลูก ๆ เพิ่มเติม สามารถเขียนแชร์เล่าให้ฟังกันได้นะคะ✨✨✨
 
 
 

อ่านบทความอื่นๆ Click link

Leave a comment