Cpall, PPAC, ค้นหาตัวตน, ค้นหาศักยภาพ, วิเคราะห์ศักยภาพ, สแกนลายนิ้วมือ, สแกนลายผิว

P-PAC เหมาะกับใคร

เป็นคำถามยอดฮิตที่หลาย ๆ คนสงสัย ว่าจริง ๆ แล้วการสแกนลายผิว เพื่อเข้าใจลักษณะพฤติกรรม รวมไปถึงการรู้เรื่องของศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวเรานั้นเหมาะกับใคร หรือใครควรจะมาเข้ารับบริการ?

Cpall, PPAC, ค้นหาตัวตน, ค้นหาศักยภาพ, วิเคราะห์ศักยภาพ, สแกนลายนิ้วมือ, สแกนลายผิว
Cpall, PPAC, ค้นหาตัวตน, ค้นหาศักยภาพ, วิเคราะห์ศักยภาพ, สแกนลายนิ้วมือ, สแกนลายผิว


ช่วงที่ผ่านต้องบอกว่าโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคุณพ่อคุณแม่พาเด็ก ๆ เข้ามาสแกน เพราะต้องการรู้ และเข้าใจในตัวลูก แต่จริง ๆ แล้ว P-PAC เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะวัยไหน หรือจะนำไปปรับใช้ในความสัมพันธ์รูปแบบไหน เพราะการที่เราสามารถเข้าใจคนข้าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนที่บ้าน ลูก ๆ เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือลูกน้อง ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดี เมื่อเราเข้าใจกันแล้ว ก็ย่อมจะทำให้การสื่อสารระหว่างกันเกิดประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจนะคะ

ในเด็ก

คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าใจวิธีการสื่อสาร หรือวิธีการเลี้ยงดูที่เหมาะกับเขาได้ เพราะหลายบ้านมีปัญหาว่า “ทำไมใช้วิธีการเดียวกันในการเลี้ยงลูกแต่ละคน แต่ผลที่ได้กลับแตกต่างกัน” ความจริงนั้นเป็นเพราะ แต่ละคนก็มีลักษณะบุคลิกที่ต่างกัน ต้องการการสื่อสารที่ต่างกันออกไป รวมไปถึง P-PAC จะช่วยให้เด็ก ๆ ไม่ต้องสุ่มเรียนไปเรื่อย ๆ โดยที่คุณพ่อคุณแม่หรือแม้แต่ตัวเด็กเองก็ยังไม่รู้ว่าลูกถนัดอะไร เหมือนเด็กยุคก่อน เราจึงสามารถช่วยให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาถนัด ทำให้เด็กทำสิ่งนั้นออกมาได้ดี จึงทำให้เขาเกิดความมั่นใจ

ความสัมพันธ์

ในที่นี้หมายถึง เพื่อน แฟน สามีและภรรยา…บ่อยครั้งที่เรามักจะสื่อสารกับคนอื่น ในแบบของเรา แต่จริง ๆ แล้วเราอาจลืมไปว่า การสื่อสารของเราอาจไม่เหมาะกับบางคน เช่น เราเป็นคนพูดตรง ๆ ซึ่งเราอาจคิดมาตลอดว่า มันคือเรื่องจริง ที่เขาต้องรับได้ เมื่อสื่อสารออกไปแล้ว เราอาจไม่ได้เก็บไปคิด แต่อีกคนอาจจะเป็นคนที่อ่อนไหวต่อความรู้สึก ทำให้เขารู้สึกแย่ ๆ ซึ่งกระทบต่อความสัมพันธ์ เรื่องแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่อง Classic ที่หลายคนต้องเคยเจอ ดังนั้นการเข้าใจว่าคนข้าง ๆ ต้องการการสื่อสารรูปแบบไหนจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเลยทีเดียว

มุมมองของการทำงาน

เราคงรู้สึกไม่ค่อยดีนัก ถ้าเราต้องทำในสิ่งที่เราไม่ถนัดทุก ๆ วัน มันทำให้เราหมดความมั่นใจ หมดแรงจูงใจ หรืออาจหมดไฟ “ทำไมเราไปได้ไม่เร็วเท่าคนอื่น?” อาจทำให้เราท้อ หรือทำงานอย่างไม่มีความสุขนัก…ความจริงนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะทำไม่ได้ เพียงแต่ว่า มันจะดีกว่าไหม ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราถนัด ทำให้เรามั่นใจว่าเราทำได้ดี ผลลัพธ์ในการทำงานก็น่าพึงพอใจ เราก็มีความสุข องค์กรก็ได้รับประโยชน์ รวมไปถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีในที่ทำงาน การสื่อสารกับทั้งหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน และลูกน้อง เราปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าความสัมพันธ์ที่ดี หรือไม่ดีในที่ทำงาน ก็มีผลต่อการทำงาน การรู้เขา รู้เราถือเป็นใบเบิกทางที่ดีในการที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ออกมาดีนะคะ

นอกจากนี้ P-PAC ไม่ได้บอกแต่จุดเด่นของเราเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถบอกถึงแนวโน้มจุดอ่อนของเรา เพื่อให้เราระวัง หรือหาวิธีการแก้ไข เพื่อให้จุดอ่อนนั้นกระทบกับเราน้อยที่สุด…มันคือการรู้ และการเข้าใจตนเอง การเข้าใจผู้อื่น รวมไปถึงการรู้จุดเด่น จุดอ่อนของตัวเอง เพื่อให้เราสามารถพัฒนาตัวเอง การเรียน การทำงานให้ดีขึ้นอย่างเหมาะสมค่ะ


โดยพี่ตุ๊ก พัชรี นิลประทีป นักวิเคราะห์ศักยภาพ P-PAC

บทความอื่นๆ Click link

Leave a comment