ลายผิว
คือ ลายเส้นผิวหนังบริเวณนิ้วมือ นิ้วเท้า ฝ่ามือ และฝ่าเท้าของมนุษย์ ซึ่งเป็นส่วนที่มีความหนามากกว่าผิวหนังส่วนอื่นอีกทั้งยังมีส่วนที่เป็น “สัน” หรือ รอยนูนที่อยู่สูงกว่าผิวหนังส่วนนอก (Ridge) และส่วนที่เป็น “ร่อง” หรือรอยลึก ที่อยู่ต่ำกว่าระดับของสัน (Furrow) ซึ่งประกอบขึ้นเป็นลวดลายที่ไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะ เป็นลายที่บริเวณปลายนิ้วฝ่ามือ และฝ่าเท้า ทำให้เกิดเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล แม้แต่ฝาแฝดก็มีลายเส้นผิวหนังแตกต่างกัน เพราะการสร้างลายผิวถูกควบคุมด้วยยีนบนโครโมโซมร่างกายมากถึง 7 ตำแหน่ง และเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลร่วมด้วยยีนหลายคู่มีปฏิกิริยาร่วมกับสิ่งแวดล้อมในระยะที่ตัวอ่อนอยู่ในครรภ์
ลายผิววิทยา หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Dermatoglyphicsมาจากรากศัพท์ ภาษากรีก 2 คำ คือ “Derma” ที่แปลว่า ผิวหนัง และคำว่า “glyphe” ที่แปลว่า การแกะ (สลัก) ซึ่งหมายถึง การศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ เกี่ยวข้องกับ ลายนิ้วมือ นิ้วเท้า ฝ่ามือ และฝ่าเท้าซึ่งเป็นการศึกษาถึงความเชื่อมโยงของลายผิวกับพันธุศาสตร์คัพภวิทยาหรือ วิทยาเอ็มบริโอ และประสาทวิทยา
ลายผิววิทยาได้รับความสนใจและมีการศึกษามากกว่า 200 ปีเช่น การใช้ลายผิวในการระบุตัวบุคคล โดยหน่วยงาน เอฟบีไอของสหรัฐอเมริกา การใช้ลายผิวในการบอกถึงแนวโน้มของโรคทางพันธุกรรมต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง เป็นต้น ปัจจุบันมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ด้านลายผิววิทยากว่า 200,000 บทความที่มีการตีพิมพ์และได้รับการยอมรับจากองค์กร สถาบัน และสถานศึกษาชั้นนำทั่วโลก