เจ้านายแบบไหน ? ที่เหมาะกับเรา
พวกเราคงเคยอ่านนิทานอิสปใช่ไหมคะ เรื่องนี้เริ่มต้นที่เหล่าฝูงกบทั้งหลายอยู่กันอย่างมีความสุขในหนองบึง ทุกตัวเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเป็นนายใครค่ะ ก็น่าจะมีความสุขดีนะคะ แต่ในความเป็นจริงแล้วกบในหนองน้ำทั้งหลายก็ไม่มีความสุข เลยไปร้องขอต่อเทวดาให้ช่วยส่งเจ้านายมาให้ แล้วเกิดอะไรขึ้นคะ เทวดาก็ส่งท่อนซุงมาให้เป็นเจ้านาย ท่อนซุงก็ลอยตัวอยู่ในน้ำเฉย ๆ อุทิศตนให้กบเกาะเป็นที่พักพิง เหมือนเจ้านายที่เป็นที่พึ่งทางใจ เป็นความร่มเย็น ทำให้อบอุ่น สบายใจ แต่กบเหล่านั้นก็ไม่พอใจค่ะ มันอยากได้เจ้านายที่มีพลัง มีอำนาจ และ active มาก ๆ เพราะมันไม่เคยมีชีวิตแบบนั้นเลย มันก็ไปร้องขอเทวดา ให้ช่วยเปลี่ยนเจ้านายให้ใหม่ ส่งมากี่แบบ ๆ ก็ไม่ถูกใจ สุดท้ายเทวดาส่งนกกระสามาเป็นเจ้านาย เพราะฝูงกบร้องขออยากได้เจ้านายที่ active พอนกกระสามาอยู่ที่หนองน้ำนี้ก็ปรีดิ์เปรม วันไหนหิวก็ไล่ล่าจับกบกิน บางตัวก็กระโดดหลบได้ บางตัวก็ไม่รอด ชีวิตตื่นเต้นมาก !!!!!
ค่ะ เรายังอยากป็นกบเลือกนายอีกมั้ยคะ ถ้าคุณเคยมาวิเคราะห์ลายผิวที่ P-PAC แล้ว อยากให้คุณถามตัวเองว่าฉันเป็นแบบไหน และนายของฉันควรเป็นแบบไหน ลักษณะของนก คือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดค่ะ
ถ้าคุณเป็นนกกระจอกเทศ คุณคงไม่ชอบมาก ๆ ที่ต้องทำงานกับเจ้านายเหยี่ยว ซึ่งเป็นนกตรงกันข้าม นกที่เหมาะกับคุณคือนกแก้วค่ะ เพราะนกแก้วจะมีความรอบคอบ มองสถานการณ์รอบด้านก่อนเสมอ ไม่เชื่อใครง่าย ๆ ต่างกับนกกระจอกเทศที่มักมีจิตใจดีงาม พร้อมช่วยเหลือคนอื่น จึงขาดการระแวงคนรอบด้าน ถ้าคุณมีเจ้านายนกแก้ว เขาก็จะช่วยเสริมคุณได้ค่ะ และที่สำคัญนกแก้วจะไม่กดดัน เร่งรัดคุณเหมือนนกเหยี่ยวด้วยค่ะ
หรือถ้าคุณเป็นนกยูงมาก ๆ คุณก็คงรู้สึกย่ำแย่ถ้าต้องทำงานกับเจ้านายที่เป็นห่านป่าที่เป็นนกตรงกันข้ามเช่นกัน นกที่เหมาะกับคุณก็ควรเป็นเหยี่ยวค่ะเพราะจะมีความชัดเจนในเป้าหมาย และต้องการใครสักคนมาช่วยทำให้เป้าหมายของเขาเป็นจริง นกยูงจะเก่งในการเจรจาและมีความสามารถในการจูงใจสูง ซึ่งเหยี่ยวจะเน้นความชัดเจนตรงประเด็น ก็อาจจะดูแข็งไป เหยี่ยวก็แค่มอบหมายให้นกยูงไปเจรจา โดยไม่ต้องไปกำหนดเนื้อหา หรือวิธีการ แค่ปล่อยให้นกยูงมีอิสระในการพูดคุยแสดงออกตามรูปแบบของตัวเอง และทำอย่างไรก็ได้ให้บรรลุเป้าหมายที่เหยี่ยวต้องการ
ถ้าคุณเป็นนกห่านป่า คุณมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก คุณจึงต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมที่คุณได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การวางแผน เตรียมการ ตรวจสอบ และลงรายละเอียดด้วยตนเอง คุณต้องการทั้งนกเหยี่ยวและนกแก้วค่ะ เพราะเหยี่ยวจะทำให้คุณชัดเจนในเรื่องเป้าหมายหรือทิศทาง คุณจะได้ไม่เสียเวลาใช้พลังทั้งหมดในการทำงาน ซึ่งบางทีอาจละเอียดไป และวางแผนเตรียมการมากไป ทำให้ใช้เวลานานเกินเหตุ ขณะที่นกแก้วจะเติมเต็มในเรื่องความรู้รอบด้าน และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ ทำให้คุณไม่ติดยึดกับขั้นตอนมากไป
ส่วนคุณที่เป็นนกแก้ว คุณน่าจะรับมือกับเจ้านายได้ทุกประเภทค่ะ เพราะความสามารถในการปรับเปลี่ยนสูง แต่ถ้าจะให้ดี เจ้านายควรมีลักษณะของเหยี่ยว ผสมนกกระจอกเทศค่ะ เพราะนกแก้วจะชอบใช้เวลาจัดการข้อมูลเชิงกว้าง จึงอาจทำให้อยู่กับข้อมูลมากไป เหยี่ยวจะช่วยทำให้ชัดเจนในเป้าหมาย ไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ และช่วยกำหนดเวลาที่ต้องการด้วย ทำให้ไม่เสียเวลาเกินเหตุ แต่ถ้าเป็นเหยี่ยวเข้มเกินไป ธรรมชาติของเหยี่ยวจะใจร้อนอยากเห็นผลเร็ว อาจทำให้นกแก้วรู้สึกกดดันเหมือนกัน จึงควรมีลักษณะของนกกระจอกเทศที่น่ารัก คอยช่วยเหลือ ปลอบใจ ด้วย แต่สายพันธุ์ที่มีทั้งเหยี่ยวและนกกระจอกเทศในคนคนเดียวกันจะหายากนิดนึงนะคะ
และตัวสุดท้ายค่ะ ถ้าคุณเป็นเหยี่ยว ก็คงจะเหมาะอย่างยิ่งถ้ามีเจ้านายที่เป็นเหยี่ยวเหมือนกันโดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นเหยี่ยวที่แข็งแรงและเก่งกว่าคุณมาก ๆ ที่สามารถทำให้คุณซึ่งเป็นเหยี่ยวเหมือนกันรู้สึกศรัทธาและยอมทำตามเป้าหมายได้ ด้วยวิสัยของการเป็นเหยี่ยวมักจะชอบอิสระในการทำงานและมีอำนาจเต็มในเขตแดนที่ตัวเองรับผิดชอบ เหยี่ยวที่เป็นหัวหน้าก็แค่มอบหมายโครงการให้รับผิดชอบโดยไม่มาจับผิดหรือลงรายละเอียดหรือลงวิธีการกับคุณ คุณที่เป็นเหยี่ยวต้องการแค่ความชัดเจนในเป้าหมายที่หัวหน้าหรือองค์กรต้องการและกำหนดเวลาที่ต้องการเท่านั้น ซึ่งหัวหน้าที่เป็นเหยี่ยวจึงเป็นที่ถูกใจและเหมาะกับคุณมากกว่านกประเภทอื่น
เป็นไงคะ ถ้าเริ่มสงสัยแล้วว่า เราควรเลือกเจ้านายแบบไหน ลองเอาผลวิเคราะห์มาพิจารณาดูก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนงาน เปลี่ยนเจ้านายนะคะ คุณจะได้ไม่ต้องเสียใจหรือโดนจับกินแบบกบในนิทานที่ตอนจบก็โดนนกกระสาจับกินหมด มีข้อแนะนำนะคะ ถ้าเรารู้แต่ว่าเราเป็นนกอะไร แต่ไม่รู้ของเจ้านาย ก็ลองชักชวนเจ้านายมาวิเคราะห์ลายผิวดูสิคะ ซึ่งถ้าเราสนิทกับเจ้านายและทำงานร่วมกันมานานก็อาจจะพอคาดคะเนได้คร่าว ๆ ว่าเจ้านายเราเป็นนกอะไร แต่ให้มั่นใจและมีรายละเอียดที่ถูกต้องชัดเจน แนะนำว่าชวนเจ้านายมาวิเคราะห์ลายผิวที่ศูนย์ฯดีกว่าค่ะ ลองเลือกโปรแกรมส่งเสริมการขายตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ เราก็จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนงานเปลี่ยนเจ้านายโดยไม่จำเป็นนะคะ
บทความ โดย อุมาพร บรรจงศร (นักวิเคราะห์ศักยภาพ P-PAC)
อ่านบทความอื่นๆ Click link