เตรียมความพร้อมเมื่อลูกเรียนออนไลน์ ‼️
ปัจจุบันการเรียนออนไลน์ของเด็ก ๆ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจก่อให้เกิดความเครียดทั้งกับตัวเด็กเอง พ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายที่อาจต้องมาเป็นทั้งคุณครูและนักเรียนในเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและช่วยสนับสนุนให้ลูกเรียนออนไลน์ได้อย่างมีความสุข และสมาชิกในครอบครัวก็เข้าใจกัน คุณพ่อคุณแม่ลองอ่านคำแนะนำที่นักวิเคราะห์นำมาฝากไปปรับใช้ดูนะคะ
เปิดใจยอมรับหากลูกเรียนออนไลน์ได้ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง พร้อม ๆ กับการเปิดใจยอมรับว่าการเรียนออนไลน์ของลูกเป็นสิ่งจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และพ่อแม่ก็ต้องเป็นทั้งผู้ช่วยครูและผู้ช่วยลูกในการเรียนอย่างอัตโนมัติ
สื่อสารกับลูกด้วยความเข้าใจอธิบายแนวทางการปฏิบัติ และร่วมกันทำตารางกิจกรรมด้วยกัน จัดสรรเวลาให้เหมาะสม ควบคุมอารมณ์ของตนเองให้มั่นคง ยิ่งหากเป็นเด็กเล็ก สิ่งที่พ่อแม่รู้สึกง่าย ก็ยังเป็นสิ่งที่ยากและใหม่กับลูกเสมอ
ช่วยให้กำลังใจกับลูกในการเรียนออนไลน์ พ่อแม่จัดเวลานั่งเรียนเป็นเพื่อนลูกในตอนแรก เพื่อให้ลูกมีความมั่นใจไม่เครียดหรือกังวลมากเกินไป ตลอดจนพูดคุยรับฟังความรู้สึกและความคิดเห็นของลูกถึงสิ่งที่ได้จากการเรียนออนไลน์ ซึ่งอาจนำไปสื่อสารให้คุณครูทราบเพื่อปรับปรุงพัฒนาการสอนให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับเด็กมากที่สุด
จัดห้องหรือสถานที่ที่จะให้ลูกนั่งเรียนให้เหมาะสม ไม่มีเสียงรบกวน ไม่พลุกพล่าน ไม่มีสิ่งเร้าที่จะทำให้ลูกเสียสมาธิ และสังเกตลูกว่าลูกมี style อย่างไรในการเรียนรู้ เพื่อให้การจัดสถานที่สอดคล้องกับ style การเรียนรู้ของลูกให้มากที่สุด เช่น การจัดอุปกรณ์ บรรยากาศ ให้มีสีสัน หรือแม้กระทั่งการแต่งตัวในการเรียนออนไลน์ ให้ลูกได้มีชีวิตชีวา
พ่อแม่ควรดูแลการนั่งเรียนออนไลน์ของลูกให้ระยะห่างระหว่างศีรษะกับหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ที่ประมาณ 50 ซ.ม. ซึ่งเป็นระยะที่มองจอได้โดยไม่ต้องใช้เพ่งสายตามากเกินไป และปรับแสงของหน้าจอให้พอดีไม่สว่างหรือมืดเกินไป เพราะจะส่งผลต่อสายตาได้ การติดตั้งแผ่นกรองแสงหน้าจอ แว่นป้องกันแสงยูวีก็เป็นตัวช่วยถนอมสายตาให้ลูก
หากมีเวลาในช่วงพักเบรกหรือเรียนออนไลน์เสร็จแล้ว ก็ควรพาลูกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น วิ่ง ขี่จักรยาน ฯลฯ ออกกำลังกายชดเชยจากที่เขาไม่ได้วิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน
คุณพ่อคุณแม่อาจรวมกลุ่มจัด Online Hangout ผ่านแอปต่าง ๆ ให้เด็กและกลุ่มเพื่อน ๆ ได้พูดคุย แบบสบายๆ แบ่งปันความรู้สึก ได้เห็นหน้า คุยกันในเรื่องราวตามวัยของเขาเพื่อให้คลายเหงาได้บ้าง หรือถ้าสนิทกับเพื่อนคนไหนเป็นพิเศษก็ลองจัดให้เรียนออนไลน์ไปพร้อมกัน ลูกจะรู้สึกได้เรียนกับเพื่อนเหมือนอยู่โรงเรียน สร้างความกระตือรือร้นให้การเรียนออนไลน์ให้ไม่น่าเบื่อนะคะ เพราะการเรียนออนไลน์ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดง่าย ๆ ช่วงเวลาแบบนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ ลูก หรือแม่แต่คุณครูก็ต้องช่วยกันแก้ไข สังเกตและปรับการเรียนการสอนต่อไป เพื่อให้การเรียนออนไลน์เป็นประโยชน์กับลูกมากที่สุด คุณพ่อคุณแม่ลองนำคำแนะนำข้างต้นไปประยุกต์ใช้กันนะคะ
โดยพี่อ้อย พัชราภรณ์ คงสวัสดิ์ นักวิเคราะห์ศักยภาพ P-PAC
#สนใจสแกนลายผิว #สแกนลายผิว#PPAC #บทความ
อ่านบทความอื่นๆ Click link