Cpall, PPAC, ค้นหาตัวตน, ค้นหาศักยภาพ, วิเคราะห์ศักยภาพ, สแกนลายนิ้วมือ, สแกนลายผิว

เลือกเรียนอะไรดี ❓️

Cpall, PPAC, ค้นหาตัวตน, ค้นหาศักยภาพ, วิเคราะห์ศักยภาพ, สแกนลายนิ้วมือ, สแกนลายผิว

เรื่องเรียนของเด็กๆนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของทุกบ้านเลยกตั้งแต่ลูกจะเข้าโรงเรียนแบบไหนดี ควรเรียนด้วยวิธีไหน เลือกสายอะไรในการเรียน ไปจนถึงเลือกคณะอะไรในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ?

คำถามเหล่านี้ถือเป็นคำถามยอดฮิต

นักวิเคราะห์ทุกท่านต้องเคยถูกถามมาแล้ว เพราะคุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้ลูกๆได้รับรู้ เรียนรู้ในสิ่งที่ดี อยากให้ลูกมีศักยภาพในการทำสิ่งต่างๆ

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะนำพาลูกๆของเราไปทางไหนดี?


ตาราง Innate Intelligence Distribution หรือที่เรียกกันว่าตารางศักยภาพ 10 ด้านของ P-PAC นี้เป็นตารางที่สามารถบอกถึงต้นทุนที่ติดตัวทุกคนมาตั้งแต่แรก โดยจะถูกจัดลำดับจากศักยภาพที่มีความโดดเด่นในตัวของเราตั้งแต่มากไปจนถึงน้อย เราสามารถนำตารางนี้มาใช้ประกอบการตัดสินใจของพ่อคุณแม่ในการส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ของลูกได้ แต่นักวิเคราะห์อยากให้คุณพ่อคุณแม่นำมาใช้อย่างเข้าใจ ศักยภาพที่โดดเด่นของแต่ละท่านในตารางศักยภาพหมายถึงต้นทุนของความสามารถด้านนั้น ๆ มีความโดดเด่น

ถ้าเรานำศักยภาพด้านนั้น ๆ ไปพัฒนาได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ลูกเรียนรู้สิ่งนั้น ๆ ได้รวดเร็ว มีความสุขที่จะทำ หรืออาจจะเห็นจากพฤติกรรมของลูก ๆ ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นสิ่งที่เขาชอบและอยากทำ จนกลายมาเป็นความถนัด ดังนั้นถ้าเราสามารถนำสิ่งที่ลูก ๆ ถนัดมา หรือรักที่จะทำมาเป็นตัวช่วยในการเลือกสายการเรียนให้ลูก ๆ ก็เป็นไปได้มากว่าลูก ๆ จะมีความสุขกับสิ่งที่เขาเรียน รวมไปถึงมีความสุขกับสายอาชีพที่เขาจะทำ และจะทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นออกมาได้เป็นอย่างดี

แต่นักวิเคราะห์อยากให้ระวังหลุมพรางหนึ่งของการเลือกสิ่งเหล่านี้

เช่น ลูกอยากเรียนเป็นทันตแพทย์ ศักยภาพด้านอื่น ๆ ดูส่งเสริมหมด ยกเว้น กล้ามเนื้อมัดเล็ก ที่จะช่วยในการหยิบจับเครื่องมือ และศักยภาพด้านการสังเกต ซึ่งส่งผลกระทบกับเรื่องของรายละเอียด

คุณพ่อคุณแม่บางบ้านเลยคิดว่าแบบนี้คงไม่สามารถเรียนได้ เพราะขาดคุณสมบัติข้อนี้ไป ความจริงนั้นเราจะมองหรือให้ความสำคัญกับศักยภาพที่ลูก ๆ โดดเด่นอย่างเดียวไม่ได้ เพราะสำหรับศักยภาพที่อยู่ลำดับท้าย ๆ ในตารางนั้น ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีศักยภาพด้านนั้น ๆ ในความเป็นจริงศักยภาพลำดับท้าย ๆ นั้นสามารถที่จะฝึกและพัฒนาให้เก่งได้เช่นกัน แต่จำเป็นต้องอาศัยการฝีกฝนให้เกิดความชำนาญ ต้องใช้ความพยายามค่อนข้างมาก แต่ก็สามารถที่จะทำสำเร็จได้ อย่างตัวอย่างข้างต้น คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคุยกับลูก ๆ และเริ่มต้นฝึกฝนศักยภาพนั้น ๆ ขึ้นมา อาจจะไม่ต้องถึงขึ้นให้โดดเด่น เพียงแค่ให้ไม่เป็นปัญหา หรือส่งผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมาย

ตารางศักยภาพเป็นเสมือนคู่มือที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มองเห็นทิศทางของลูก ๆ ได้ชัดเจนขึ้น ถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะเข้ามามีส่วนช่วยในเลือกสายการเรียนให้ลูก ๆ ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอาศัยสิ่งแวดล้อม และวิธีการสอนที่เหมาะสมเพื่อเข้ามาเป็นตัวช่วยด้วย เช่น ลูกมีศักยภาพด้านตรรกะ การคิดวิเคราะห์ที่โดดเด่นมาก แต่ทำไมเรียนเลขไม่เข้าใจ? หลายบ้านเกิดความสงสัยในปัญหานี้ คำตอบคือ ต้นทุนมาดี แต่สิ่งแวดล้อม วิธีการสอน ไม่เอื้ออำนวยก็อาจจะไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดได้ เพราะคนที่มีศักยภาพด้านตรรกะที่โดดเด่น โดยส่วนมากมีแนวโน้มที่จะต้องการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านการเข้าใจกระบวนการ รวมไปถึงที่มาที่ไปของสิ่งนั้น ๆ อย่างชัดเจน แต่ถ้าการเรียนการสอน เป็นไปแบบให้ท่องจำแล้วนำไปใช้ หรือไม่ได้อธิบายให้เข้าใจอย่างแท้จริง ลูก ๆ ก็จะไม่สามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอดได้ ดังนั้นการเข้าใจว่าลูก ๆ มีศักยภาพด้านไหนที่โดดเด่น หรือด้านไหนที่ควรส่งเสริมแล้ว เรื่องของการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับลูก ๆ ในการเรียน รวมไปถึงวิธีที่ใช้ในการสอนนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน

โดย คุณตุ๊ก พัชรี นิลประทีป – นักวิเคราะห์ศักยภาพ P-PAC

บทความอื่นๆ Click link

Leave a comment