Cpall, PPAC, ค้นหาตัวตน, ค้นหาศักยภาพ, วิเคราะห์ศักยภาพ, สแกนลายนิ้วมือ, สแกนลายผิว

5ภาษารักและรูปแบบการเลี้ยงดูลูก (#ตอนที่4)

Cpall, PPAC, ค้นหาตัวตน, ค้นหาศักยภาพ, วิเคราะห์ศักยภาพ, สแกนลายนิ้วมือ, สแกนลายผิว

(The Five Love Languages)
แล้วภาษารักของลูกคืออะไร? คุณพ่อคุณแม่จะแสดงความรักต่อลูกอย่างไร?

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราพูดถึงThe Five Love Languages 5 ภาษารัก ซึ่งเป็นทฤษฎีของ Dr. Gary Chapman ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักความสัมพันธ์ ชีวิตครอบครัวและการพัฒนาเด็ก Dr.Chapman เชื่อว่าหากมีความเข้าใจที่ดีเกิดขึ้นได้จากการสื่อสารระหว่างการสร้างความสัมพันธ์ น่าจะมี ภาษาหรือสื่อกลางที่ทำให้ทุกฝ่ายในความสัมพันธ์เข้าใจและแปลความหมายได้อย่างตรงกันมากที่สุด ดังนั้นการกระทำและพฤติกรรมประจำตัวของแต่ละคนที่สื่อถึงความรักก็จะมีแนวโน้มที่แตกต่างกัน จะเห็นได้ว่าหลาย ๆ ครั้งที่เรารู้สึกว่าเราชอบวิธีการแสดงออกความรักแบบนี้ แต่คนที่เรารักกลับไม่เคยแสดงความรักแบบนี้กับเราเลย ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันเพราะทุกคนล้วนมีบุคลิกหรือการเลี้ยงดู การได้รับความรักที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อการแสดงออกความรักและการคาดหวังจากคนรักที่แตกต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่าภาษารักระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกก็มีโอกาสที่จะส่งและรับแตกต่างกันได้ค่ะ

Dr. Chapman กำหนดแนวคิดภาษารัก (love languages) ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 รูปแบบ ดังนี้

  1. Words of Affirmation (สื่อภาษารักผ่านคำพูด)
  2. Quality Time (สื่อภาษารักผ่านการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน)
  3. Physical Touch (สื่อภาษารักผ่านการสัมผัส)
  4. Acts of Service (#สื่อภาษารักผ่านการทำอะไรดีๆให้)
  5. Receiving Gifts (สื่อภาษารักผ่านการมอบของขวัญ)
    เมื่อ 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาเราได้มีการพูดถึงภาษารักแบบแรก คือ Words of Affirmation (สื่อภาษารักผ่านคำพูด) แบบที่สอง Quality Time (สื่อภาษารักผ่านการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน) และแบบที่สาม Physical Touch (สื่อภาษารักผ่านการสัมผัส) ไปแล้วนะคะ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนพลาดจากอาทิตย์ที่แล้ว สามารถอ่านย้อนหลังได้ที่ Link ด้านล่างเลยค่ะ วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในภาษารักแบบที่สี่กันค่ะ
  6. Acts of Service (สื่อภาษารักผ่านการทำอะไรดี ๆ ให้)
    การทำอะไรที่เกินความคาดหมายมีแนวโน้มจะถูกมองว่าเป็นความรักและความห่วงใย แล้วคุณพ่อคุณแม่จะแสดงความรักต่อลูก ๆ อย่างไร? ลองคิดหาวิธีแบ่งเบาภาระของพวกเขา หรือคิดเกี่ยวกับท่าทางที่พวกเขาจะชอบอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยเหลือหรือช่วยทำอะไรดี ๆ ให้พวกเขาโดยธรรมชาติ ลูกจะรับรู้ได้ว่านั่นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก ๆ คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของลูก ให้ลูกได้มีส่วนในการตัดสินใจ เช่น จะไปทานอะไร ที่ไหน จะดูหนังเรื่องอะไร เป็นต้น

หากลูกชอบภาษารักผ่านการทำอะไรดี ๆ ให้ นี่คือกลยุทธ์ในการแสดงความรักของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

1.ช่วยพวกเขาทำงานบ้านที่ได้รับมอบหมาย การช่วยงานบ้านลูกเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นครั้งคราวก็ทำให้ลูกรู้สึกได้ถึงความรักที่คุณพ่อคุณแม่มีให้เช่นกัน

2.ให้เวลามากขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจให้เวลาลูก ๆ มากขึ้นในการช่วยพวกเขาทำการบ้านหรือทบทวนบทเรียนต่าง ๆ งานกิจกรรมโรงเรียนที่อาจช่วยลูกได้ เช่น การดูลูกซ้อมละคร การเป็นผู้ชมที่บ้าน

3.เตรียมของโปรด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม ของหวาน แค่นี้ก็เรียกรอยยิ้มจากลูกได้แล้ว

4.ให้พวกเขามีส่วนตัดสินใจกิจกรรมของครอบครัว: ให้ลูกตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในวันหยุดสุดสัปดาห์ จะไปทานอาหารเย็นร้านอะไร จะดูหนังเรื่องอะไร เหล่านี้นอกจากทำให้ลูกมีความสุขแล้วยังฝึกเรื่องทักษะการตัดสินใจให้ลูกไปในตัวด้วย

  • สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงคือ
    1.ให้งานบ้านและงานเกินความสามารถ การมอบหมายงานบ้านควรสอดคล้องกับช่วงอายุของลูกด้วย ซึ่งเด็กในแต่ละช่วงวัยนั้นก็ต้องการงานบ้านที่เหมาะสม เหมาะกับอายุ
    2.ทำเหมือนลูกไม่มีตัวตน หากพ่อแม่ไม่ให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทำกิจกรรมต่าง ๆ ในครอบครัว จะทำให้ลูกรู้สึกไม่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
    3.การปฏิบัติต่อพี่น้องอย่างไม่เป็นธรรม แน่นอนว่าหากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนมีลูกมากกว่า 1 คน อาจจะมีปัยหาของเรื่องพี่น้องเกิดขึ้นได้ อาจจะต้องให้พี่น้องได้คุยและตกลงกันว่าอาทิตย์นี้ใครจะได้ตัดสินใจในเรื่องไหน
  • สิ่งที่แน่นอนที่สุดสำหรับลูกที่ชอบภาษารักผ่านการทำสิ่งดี ๆ ให้ คือความเชื่อในการกระทำว่าสำคัญกว่าคำพูด ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยเหลือพวกเขาด้วยความเต็มใจ ตามใจพวกเขาตามความเหมาะสม จนถึงการช่วยแก้ปัญหาที่ลูกอาจพบเจอ เป็นเพื่อนคู่คิด คอยให้คำปรึกษาก็ทำให้ลูกรู้สึกถึงความรักที่คุณพ่อคุณแม่แสดงให้เห็น แต่ข้อควรระวังคือควรทำสิ่งต่าง ๆ ให้ด้วยความพอดีนะคะ

    Leave a comment